P&P Product Leadership Co.,Ltd
4/1 Soi Kubon 6 , Kubon Road , Khwaeng , Ramintra
Khet Kannayao , Bangkok 10230
Tel : 02-946-4585-7 , 02-946-4290-1 , 02-943-2366
Fax : 02-946-4588
Email : center@pandp.co.th , spider_it@pandp.co.th
Website : www.pandp.co.th
ความแตกต่างระหว่าง Microsoft 365 (Office 365) และ Office 2021
ในปัจจุบัน มีผู้ใช้งานจำนวนมากที่ยังสับสนอยู่ระหว่าง Microsoft 365, Office 365 และ Office 2021 ว่าคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร ในบทความนี้เราจะช่วยไขข้อสงสัยและสรุปรายละเอียดทั้งหมดให้เข้าใจในที่เดียว
ความแตกต่างระหว่าง Microsoft 365 (Office 365) และ Office 2021
1. Microsoft 365 เป็นชื่อใหม่ของ Office 365
ดังนั้น ทั้ง Microsoft 365 (ไมโครซอฟ 365) และ Microsoft Office 365 (ไมโครซอฟ ออฟฟิศ 365) คือ สินค้ากลุ่มเดียวกัน โดย Microsoft ได้ทำการเปลี่ยนชื่อจาก Microsoft Office 365 (หรือบางครั้งมักจะเรียกย่อๆว่า o365) เป็น Microsoft 365 ในวันที่ 21 เมษายน 2020 โดยมีการเปลี่ยนชื่อของสินค้าในกลุ่มทั้งหมดดังนี้
• Office 365 Home เปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft 365 Family
• Office 365 Personal เปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft 365 Personal
2.สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานองค์กร
• Office 365 Business Essentials เปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft 365 Business Basic
• Office 365 Business Premium เปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft 365 Business Standard
• Microsoft 365 Business เปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft 365 Business Premium • Office 365 Business เปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft 365 Apps for Business
3.สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานองค์กรขนาดใหญ่
• Office 365 Business ProPlus เปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft 365 Apps for Enterprise
• Office 365 E1, E3, และ E5 ยังคงอยู่เหมือนเดิม
• แต่มีการเพิ่ม Microsoft 365 F3, E3, E5 ซึ่งรวม Windows 11 Enterprise และความสามารถมากขึ้นเข้ามาเป็นตัวเลือก
นอกจากการเปลี่ยนชื่อต่างๆแล้ว ในสินค้าบางกลุ่มยังจะมีการเปลี่ยนสินค้าส่วนประกอบภายในด้วย ซึ่งโดยมากจะเป็นการเพิ่มความสามารถใหม่ๆเข้าสู่แพคเกจของ Microsoft 365 ในแต่ละกลุ่ม และในความจริง Microsoft ยังมีการแบ่งกลุ่มสินค้าย่อยๆลงไปอีก เช่น สำหรับหน่วยงานราชการ สำหรับสถานศึกษาเป็นต้น
Microsoft 365 เป็นบริการของ Microsoft ที่มีการให้บริการแบบ Subscription หรือการคิดค่าบริการรายปี โดยจะประกอบไปด้วยบริการที่หลากหลายโดยในบางชุดจะประกอบไปด้วย Microsoft Office สำหรับเดสท์ท็อป ที่คุ้นเคยเช่น Word, PowerPoint และ Excel รวมไปถึงการให้บริการเนื้อที่เก็บข้อมูลบน Cloud OneDrive และบริการอื่นๆ เช่น Microsoft Teams, OneNote, ToDo เป็นต้น สำหรับรายละเอียดจะมีการกล่าวถึงในลำดับถัดไป
2. Microsoft Office 2021
เป็นชุด Microsoft Office (ไมโครซอฟ ออฟฟิศ) เพียงอย่างเดียว โดยชุด Office มีการปรับปรุงและพัฒนามาอย่างยาวนาน เช่น Office 2003, Office 2007, Office 2010, Office 2013, Office 2016, Office 2019 และล่าสุด Office 2021 โดยเป็นรูปแบบที่มีการซื้อครั้งเดียว (Perpetual) ไม่ต้องจ่ายรายปี โดยจะประกอบไปด้วยชุด Outlook, Word, Excel, PowerPoint เวอร์ชันติดตั้งเต็มรูปแบบสำหรับ Windows หรือ Mac เท่านั้น ไม่มีความสามารถอื่นๆเพิ่มเติม
โดยจะประกอบไปด้วย 3 รูปแบบดังต่อไปนี้
1.Office Home & Student 2021
• ประกอบไปด้วย Word, Excel, PowerPoint
• ราคากลาง 4,200 บาท
2.Office Home & Business 2021
• ประกอบไปด้วย Word, Excel, PowerPoint, Outlook
• ราคากลาง 11,200 บาท
3.Office Professional 2021
• ประกอบไปด้วย Word, Excel, PowerPoint, Outlook, Publisher, Access
• ราคากลาง 15,400 บาท
ข้อดีของ Office 2021 คือคุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเป็นรายปี เป็นการจ่ายเพียงครั้งเดียวและสามารถใช้งานได้ตลอดไป และผู้ใช้งานมีความคุ้นเคยกับ Microsoft Office อยู่แล้วไม่ต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานแต่อย่างใด นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อ Internet ซึ่งก็เหมาะกับผู้ที่ยังไม่สามารถเชื่อมต่อ Internet ได้อย่างสม่ำเสมอ สำหรับ Version 2021 นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะกับ Windows 10, Windows 11 หรือ macOS สามเวอร์ชั่นล่าสุดเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับ OS ที่เก่ากว่านี้ได้ ซึ่งอาจจะต้องไปใช้ Office Version เก่าหรือ Microsoft 365 แทนซึ่งยังสามารถใช้งานกับ Window 8.1 ได้อยู่
Microsoft 365 มีกี่แบบ ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร
Microsoft 365 เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ทาง Microsoft สนับสนุนให้ใช้งานและเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนที่ต้องการแอป Office ทั้งหมดและทุกอย่างที่มีให้บริการทั้งบนคลาว์ดและบนเครื่องของผู้ใช้งาน รวมไปถึงแอพลิเคชั่นบนมือถือ บางแพ็คเกจคุณสามารถแบ่งปันบัญชีกับคนมากถึงหกคน และยังได้รับการอัปเดตผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการเป็นรายเดือนหรือรายปี โดยมีการแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็น 3 กลุ่มหลักดังต่อไปนี้
1. สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานส่วนตัว (Home Use)
เหมาะกับผู้ใช้งานตามบ้านทั่วไปที่ต้องการชุด Microsoft 365 ที่ทันสมัยมีการอัพเดทตลอดเวลา โดยได้รับบริการต่างๆจาก Microsoft ครบครับ โดยประกอบไปด้วย 2 แพคเกจดังต่อไปนี้
• Microsoft 365 Family
• สำหรับผู้ใช้งานตั้งแต่ 1-6 คนในครอบครัวที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ในชุดเดียวกัน
• Microsoft 365 Personal
• สำหรับผู้ใช้งาน 1 คน สำหรับรายละเอียดสามารถดูได้จากตารางต่อไปนี้
2. สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานองค์กรทั่วไป (Business)
เหมาะกับกลุ่มลูกค้าองค์กรทั่วไปที่มีจำนวนผู้ใช้งานไม่เกิน 300 คน เนื่องจากเป็นจำนวน License ที่สามารถซื้อได้สูงสุดสำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ ถ้าหากมีผู้ใช้งานมากกว่านี้ต้องเปลี่ยนไปใช้งานผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานองค์กรขนาดใหญ่ (Enterprise) โดยในชุดนี้องค์กรสามารถสร้างและใช้ Email ที่เป็นโดเมนของตนเอง เช่น @askme.co.th ได้ โดยประกอบไปด้วย 4 แพคเกจดังต่อไปนี้
• Microsoft 365 Business Basic
• Online เป็นหลัก โดยจะไม่มีการติดตั้งโปรแกรม Office บนเครื่องเดสก์ท็อปบนพีซีและ Mac
• Microsoft 365 Apps for business
• สามารถติดตั้งโปรแกรม Office บนเครื่องเดสก์ท็อปบนพีซีและ Mac ได้ แต่ไม่มีการทำงานของ ระบบExchange Email, Microsoft Team และ SharePoint มาให้
• Microsoft 365 Business Standard (มี Promotion)
• เป็นชุดมาตรฐานที่มีใน 2 ชุดด้านบน และมีความสามารถอื่นๆเพิ่มเติม
• Microsoft 365 Business Premium
• มีทุกอย่างใน Business Standard แต่เพิ่มเรื่องความปลอดภัยของเครื่องเดสก์ท็อปและระบบ Email มากขึ้น และมีระบบจัดการพีซีและอุปกรณ์เคลื่อนที่
Microsoft 365 Business
สำหรับรายละเอียดสามารถดูได้จากตารางต่อไปนี้
3. สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานองค์กรขนาดใหญ่ (Enterprise)
สำหรับองค์กรที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 300 คนหรือองค์กรที่ต้องการความสามารถที่เพิ่มเติมจากชุด Microsoft 365 Business รวมไปถึงความสามารถทางด้านความปลอดภัยขั้นสูงสามารถเลือกใช้งานกลุ่ม Microsoft 365 Enterprise ชุดนี้ได้ โดยประกอบไปด้วย 2 แพคเกจใหญ่ดังต่อไปนี้
• Office 365
• เป็นกลุ่ม Office 365 Enterprise เดิมที่ทาง Microsoft ยังคงอยู่ ประกอบไปด้วย
• Office 365 E1, Office 365 E3, Office 365 E5
Microsoft 365
• เป็นชุดแพคเกจใหม่ ที่เพิ่มในส่วนของ License Windows 11 Enterprise ขึ้นมาและเพิ่มความสามารถทางด้าน Cloud Service เช่น Azure Active Directory Premium และความสามารถในการบริหารจัดการเครื่องลูกข่ายเพิ่มเติม ประกอบไปด้วย
• Microsoft 365 Apps for Enterprise, Microsoft 365 E3, Microsoft 365 E5
3.1 Office 365
เป็นชุดที่เหมาะสำหรับลูกค้าที่มี Windows License อยู่แล้วและยังไม่ต้องการความสามารถทางด้านการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง โดยประกอบไปด้วย
• Office 365 E1
• เป็นชุดเริ่มต้นและเป็นชุดผลิตภัณฑ์ที่เน้นการทำงานแบบ Office Online เป็นหลัก โดยจะไม่มีการติดตั้งโปรแกรม Office บนเครื่องเดสก์ท็อปบนพีซีและ Mac
• Office 365 E3
• เป็นชุดที่มีความสามารถเพิ่มเติมและสามารถติดตั้งบนเครื่องเดสก์ท็อปได้ มีจุดเด่นตรงที่สามารถเก็บข้อมูลบนคลาวด์ได้ไม่จำกัดและมีเนื้อที่ Email มากขึ้น
• Office 365 E5
• เป็นชุดที่มีทุกอย่างของ E3 แต่เพิ่มในส่วนของบริการด้านความปลอดภัยมากขึ้น และมีในส่วนของ Power BI Pro มาให้ในชุด
Office 365 Packages
สำหรับรายละเอียดสามารถดูได้จากตารางต่อไปนี้
3.2 Microsoft 365
จุดเด่นสำหรับ E3, E5 ในชุดนี้คือมี Windows 11 Enterprise License มาให้พร้อมในชุด พร้อมทั้งบริการออนไลน์ที่ครบถ้วนของ Microsoft และระบบความปลอดภัยที่สูงที่สุด โดยประกอบไปด้วย
Microsoft 365 – Apps for Enterprise, E3 and E5
สำหรับรายละเอียดสามารถดูได้จากตารางต่อไปนี้
การเลือกใช้งาน Microsoft 365, Office 365 และ Office 2021 และการผสมชุด License
ในการเลือกใช้งานจะขึ้นอยู่กับหลายๆเงื่อนไขในการตัดสินใจ โดยประกอบไปด้วยหัวข้อดังต่อไปนี้
การผสมชุด License ของ Microsoft 365ในแต่ละองค์กร ผู้ใช้งานสามารถผสมระหว่างชุด Microsoft 365, Office 365 และ Office 2021 เข้ามาใช้ร่วมกันได้ในบัญชีเดียวกัน เช่น การผสมชุด Office, Enterprise, Business เข้าด้วยกัน แต่ข้อจำกัดของชุดแพคเกจจะยังคงอยู่เหมือนเดิม เช่น Microsoft 365 Business ไม่สามารถใช้เกิน 300 License ได้เป็นต้น
ที่มา ASKME |
กด ATM แทนคนอื่นผิดไหม? รู้ทันกลโกงมิจฉาชีพ และวิธีป้องกัน แฮกเกอร์จะแฮกเราได้ลำบากขึ้น เพียงปิดมือถือวันละ 5 นาที! ไซยาไนด์คืออะไร ใช้ทำอะไร? รู้จัก DOT MATRIX PRINTER หรือเครื่องพิมพ์แบบหัวเข็ม |